เมื่ออาทิตย์ก่อนเราเหมือนจะว่างงาน เพราะโปรเจ็คต์ที่ทำอยู่ใกล้เสร็จ วันจันทร์ก็เลยไปบอกหัวหน้าว่าเริ่มว่างแล้ว ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกมา พอตอนบ่ายๆ เขาก็เอางานฆ่าเวลามาให้ทำ น่าจะใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง และที่จริงก็ไม่ค่อยจำเป็นต้องทำเท่าไหร่ แต่เขาคงไม่อยากให้เรานั่งว่างๆ
พอวันอังคารเขาก็บอกว่ามีโปรเจ็คต์ใหม่เพิ่งเข้ามา เขา assign ให้เราเป็น lead มี contract มาแล้ว ถ้ามีเวลาก็ให้เริ่มเข้าไปอ่านได้เลย (เซ็งเล็กน้อย เพราะนึกว่าน่าจะได้พักว่างๆ ซักอาทิตย์สองอาทิตย์) แต่ยังไม่ทันได้เริ่มดูโปรเจ็คต์ใหม่ ก็พอดีโปรเจ็คต์เก่าก็มีงาน labour มาให้ทำ 3 งาน งานแรกกินเวลาไปเกือบสามวันเพราะเน็ตเวิร์กกับดาต้าเบสมีปัญหา งานที่สองเรากะจะให้เสร็จศุกร์ที่แล้ว แต่ก็ข้ามอาทิตย์มาจนได้ เพิ่งเสร็จไปเมื่อวันอังคาร เรากะว่าวันพุธเราทำงานสุดท้ายเสร็จ วันนี้จะได้เริ่มดูโปรเจ็คต์ใหม่
แต่เย็นวันอังคารหัวหน้ามาถามว่าโปรเจ็คต์เก่ายังส่งงานมาให้หรือเปล่า เราบอกว่าก็มีบ้าง เขาบอกว่ามีงาน proposal ให้เราทำ นัดประชุมคุยรายละเอียดวันพุธ (ประมาณว่าที่เขาถามเรื่องโปรเจ็คต์เก่า เป็นแค่คำถามทักทาย ไม่ว่าเราจะตอบว่ายังไง เขาก็ assign งานใหม่ให้อยู่ดี) เราอึ้งไปเล็กน้อยเพราะโปรเจ็คต์ใหม่ก็ยังไม่ได้ดูเลย แต่ก็คิดในแง่ดีว่าโปรเจ็คต์ใหม่คงยังไม่มีอะไร เพราะเพิ่งเริ่ม อาจจะอีกสองสามอาทิตย์กว่าจะต้องทำอะไร
เช้าวันพุธโปรเจ็คต์ใหม่ส่งงานมาให้ (แต่เป็นงาน chemical เราไม่ต้องดูมาก แต่ก็น่าจะใช้เวลาวันสองวัน) โปรเจ็คต์เก่าค้างอยู่อีก 1 วัน ตอนสายเข้าไปประชุมงาน proposal หัวหน้ายกเอกสาร bid มาตั้งใหญ่ บอกรายละเอียดว่าต้องส่งอะไรให้ KC บ้าง ซึ่งไอเดียหลักก็คือจะให้อ้างอิงจาก proposal โปรเจ็คต์ที่แล้วให้มากที่สุด คือให้ check ว่ามีโปรเจ็คต์นี้มีอะไรที่ต่างจากโปรเจ็คต์ที่แล้ว ก็ markup แล้วแก้ตาม เขาให้เด็กมา 2 คน ให้ช่วยทำงาน detail คนหนึ่งเคยทำ proposal มา 2-3 โปรเจ็คต์แล้ว ก็ค่อนข้างจะคุ้นเคยกับการเตรียมเอกสาร
เขาบอกว่า proposal due กลางเดือนธันวาคม ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลมากเกี่ยวกับ cycle performance เพราะฉะนั้นจะยังทำงาน detail อะไรไม่ได้มาก อาทิตย์นี้ให้เราไปอ่านเอกสาร bid แล้ว list คำถามส่งให้ทาง KC เขาต้องการคำถามภายในวันศุกร์ แต่ key อยู่ที่วันศุกร์หัวหน้าเราจะลาพักร้อน (เริ่มเข้าใจว่าทำไมเขาถึง assign งานนี้ให้เรา และทำไมเขาลุกลี้ลุกลนนัก) เขาจะแจ้งทางเมืองนอกไปว่าเราจะเป็นคนรับผิดชอบ proposal นี้ เขาจะช่วย review bid ด้วย และส่งคำถามให้เราภายในวันพฤหัส ให้เรารวมกับคำถามของเรา กับคำถามของพี่อีกคนหนึ่ง แล้วส่งให้ทาง KC วันศุกร์
เราโคตรจะสงสัยเลยว่า ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนี้ คิดดู bid ในส่วนที่เราต้องอ่านมี 3 เล่ม (ปึก) เขาได้งานจาก KC มาวันอังคาร เท่ากับมีเวลาอ่านแค่ 3 วัน heat balance ก็ยังไม่มี due date ก็อีกตั้ง 2 เดือน มันจะมารีบเอาคำถามอะไรภายใน 3 วันวะ แต่หัวหน้าเราก็เป็นแบบนี้แหละ เขาไม่เคยตอบ no กับคนที่อยู่เหนือเขา แต่จะใช้วิธีบี้กับลูกน้องตัวเอง
เราอยากจะบ่นว่าตกลงเราต้องทำควบ 2 โปรเจ็คต์ใช่ไหม แต่เขาก็เหมือนจะอ่านใจเราออกหน่อยๆ เขาบอกว่างานโปรเจ็คต์ใหม่ยังไม่น่าจะเริ่มจนกว่าจะปลายปี ก็พอดีกับที่ proposal นี่เสร็จพอดี แต่เราว่าเขาพูดเข้าข้างตัวเอง (เพราะโปรเจ็คต์ใหม่หลุดจากความรับผิดชอบของเขามาอยู่กับเราไปแล้ว) จากที่เราดูโปรเจ็คต์ใหม่น่าจะเริ่มภายในอาทิตย์สองอาทิตย์นี้แล้ว
ตามปกติถ้าใครถูก assign เข้าโปรเจ็คต์ไป ก็จะ full time ไปเลย ไม่มีงานอื่นมาแทรก แต่ที่เขาเอา proposal มาให้เราทำ เพราะเขาทำไม่ทันและไม่มีคนอื่นทำให้ พอดีคนที่เป็นตัวยืนทำ proposal ถูกส่งไปเทรนเรื่อง procurement ที่ KC (ความจริงเด็กคนที่เขา assign ให้มาช่วยเราน่าจะทำได้ แต่เขาไม่ไว้ใจ กลัวต้อง check เยอะ มันเป็นงานในความรับผิดชอบเขา เขาไม่กล้าปล่อยกลัวโดนด่า) มันเป็นความซวยที่งาน proposal นี้ดันเข้ามาหลังจากที่เขา assign โปรเจ็คต์ใหม่ให้เรานิดเดียว ถ้ามันมาก่อนเขาอาจจะ hold งานโปรเจ็คต์ใหม่ไว้ดูเองก่อน แต่ตอนนี้ก็ดึงกลับไม่ทันแล้ว เพราะเขาส่งชื่อเราไปที่ KC แล้ว และ KC ก็เริ่มติดต่อกับเราแล้ว
ประชุมเสร็จเราก็กลับไปทำงานโปรเจ็คต์เก่าที่ค้างอยู่ต่อให้เสร็จ หัวหน้าเราเขาก็คงไม่ค่อย happy เท่าไหร่ เพราะเขาคงอยากให้เราเริ่ม review bid ของเขาเลย แต่เราไม่สน เพราะเราคิดว่ายังไงการ review bid ใน 3 วันก็ไม่สามารถจะ list คำถามทั้งหมดได้อยู่แล้ว เหลือ 2 วันก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่ วันพฤหัสค่อยเริ่มอ่าน ทำเท่าที่ทำได้ (ถ้าเขาอยากให้ทำดีกว่านี้ ก็ต้องทำเองนะ)
เช้าวันนี้เราได้เมลจาก KC เป็น coordinator ของแผนกเครื่องกลที่ KC เราเคยทำงานกับเขาตอนเราไป KC ครั้งแรก ตอนนั้นเขายังเป็น Specialist อยู่แผนก Power Conversion เขาเมลมาถามเราเรื่อง procedure เกี่ยวกับการติดต่อส่งงานระหว่าง KC กับกรุงเทพ ว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่ากับโปรเจ็คต์ที่ผ่านๆ มา มีคำแนะนำหรือข้อเสนอแนะหรือเปล่า
เราเดาว่าที่เขาส่งมาหาเราแทนที่จะส่งหาหัวหน้าหรือส่งให้ทอม เพราะเขารู้จักเราและอาจจะไม่อยากทำเป็นทางการ เราก็ไม่ mind ที่จะให้ feedback เพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต อาจจะใช้เวลาซักชั่วโมงแต่ง email แต่เรายังไม่ตอบเขาเพราะฟอร์เวิร์ดต่อไปให้หัวหน้าเราด้วย เราคิดว่าเราดูแค่โปรเจ็คต์ที่เรารับผิดชอบ แต่เขาดูภาพรวมอาจจะมีความเห็นนอกเหนือจากที่เรา
ปรากฏว่าหัวเดินมาบอกเราว่าเมลที่ฟอร์เวิร์ดส่งไป เราไม่น่าจะต้องตอบ น่าจะให้ทอมเป็นคนตอบมากกว่า เพราะทอมเป็นคนเขียน procedure เป็นหน้าที่เขา งานนี้ไม่เร่งด่วน (หรืออีกนัยหนึ่งคือตอนนี้งานเร่งด่วนคือ proposal) เอาไว้อาทิตย์หน้าค่อยว่ากัน เดี๋ยวอาทิตย์หน้าเขาจะคุยกับทอมอีกที เราก็งงๆ ว่าทำไมต้องคุยกับทอมวะ เขาขอ comment จากเรา (ระดับปฏิบัติการ) ถ้าเขาอยากได้ทอม (ระดับผู้บริหาร) เขาก็ส่งไปถามทอมแล้วสิวะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้จักกันเมื่อไหร่
แต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาจะคุยกับทอมหรือจะทำอะไรก็เรื่องของเขา ถ้าเขามีความเห็นอะไรให้เรา เราก็จะรวบรวมส่งต่อ แต่ถ้าไม่งั้นแต่เราก็จะตอบเมลไปตามที่เราคิด เราว่าเขากำลัง in กับงาน proposal ของเขา ต้องการจะ keep deadline ของเขา เขาอาจจะคิดว่างานแบบนี้ไม่ใช่หน้าที่ ไม่มี phase charge แต่เรากลับคิดว่าไม่เหลือบ่ากว่าแรง เราช่วยเขาไว้งานนี้ ต่อไปเรามีงาน "ขอแรง" เขาก็ต้องเกรงใจเราเหมือนกัน ลอจิกในการตอบรับตอบปฏิเสธหรือตั้งคำถามเกี่ยวกับงานของเรากับหัวหน้าเราต่างกันเยอะ ไม่รู้ว่าเวลาที่เราเป็นหัวหน้าใหญ่ๆ กว่านี้ (ถ้ามีโอกาสต้องเป็น) เราอาจจะเข้าใจหรือเปลี่ยนไปเห็นด้วยกับเขามั่งหรือเปล่า
9:45 a.m. - Thursday, Oct. 05, 2006
Recent entries:
::Thursday, Oct. 05, 2006 -
นินทาหัวหน้า
::Wednesday, Sept. 13, 2006 -
����ͧ�����
::Tuesday, Sept. 05, 2006 -
��ҷ���
::Monday, Jun. 19, 2006 -
�ѹ��
::Friday, Sept. 23, 2005 -
Raise
My profile
Archives
Notes
Diaryland
Random
RSS
others: